วิกฤติสุขภาพ ! มะเร็งครองแชมป์เสียชีวิต ไข้เลือดออกระบาดครึ่งปีแรกทะลุ 16,924 ราย
วิกฤติโควิด-19 ดั่งคลื่นมรสุมซึ่งยังไม่มีทีท่าจะสงบ พายุทางสาธารณสุขลูกใหม่ก็ก่อตัวขึ้นเตรียมพัดถล่มอีกระลอก ทั้งข่าวช็อก ! การเสียชีวิตด้วย “โรคมะเร็ง” ของคนดังในสังคม แถมยังถูกถาโถมด้วยจากการแพร่ระบาดของ “ไข้เลือดออก” ทั้งคู่คือโรคยากที่เป็นง่าย และมีแนวโน้มสาหัสขึ้นทุก ๆ ปี ห่วงทั้งหน้า พะวงทั้งหลังไปพร้อมกัน ด้วยสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อสงครามโรคตั้งท่าจะลุกลามสุขภาพของเรา
มะเร็งปักธงครองแชมป์สาเหตุการเสียชีวิตมากสุด
ถ้าไม่นับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ก็เห็นจะเป็นโรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตของคนไทยมากว่า 20 ปี ครองแชมป์ตั้งแต่ปี 2542 โดยข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เฉลี่ยวันละ 221 ศพ หรือคิดเป็น 80,665 ศพต่อปี และเมื่อเจาะลึกลงไปในข้อมูล เราจะพบผู้ป่วยรายใหม่จากมะเร็งเฉลี่ยวันละ 336 ราย หรือคิดเป็น 122,757 รายต่อปี
เมื่อเปรียบเทียบจากสถิติจะพบว่า ในแต่ละวันมีคนไทยเป็นผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ มากกว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงพีค ๆ เสียด้วยซ้ำ มะเร็งจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนมีโอกาสป่วยและเสียชีวิตได้ ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งจะมาพบกับคุณในขั้นลุกลามระดับใด
เริ่มต้นจากเนื้องอก โตเต็มวัยสู่เนื้อร้าย
ทุกคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในตัวตั้งแต่เกิด อยู่ที่จะกลายเป็นเนื้อร้ายเมื่อไหร่และกับใครเท่านั้นเอง แต่ส่วนใหญ่มะเร็งจะเริ่มต้นจากเนื้องอกธรรมดา ๆ มีที่มาจากการแบ่งตัวและเจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งอาจหยุดอยู่ที่การเป็นเพียงเนื้อเยื่อธรรมดาก็ได้ หรือจะกลายร่างเป็นเนื้อร้ายที่มีเซลล์มะเร็งก็มีบ่อย
โรคมะเร็งพบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะพบในอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ส่วนในวัยเด็กพบน้อยกว่าในผู้ใหญ่ถึง 10 เท่า นอกจากนี้ มะเร็งยังเกิดจากกรรมพันธุ์ได้อีกด้วย
มะเร็งพบได้ทั้งชายและหญิง
เปิดสถิติสุดสะพรึงของมะเร็งที่พบบ่อยสุดในคนไทย โดยผู้ชายเป็นมะเร็งเฉลี่ย 169.3 คนต่อประชากร 1 แสนคน ติดอันดับที่ 15 ของเอเชีย สำหรับมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย 5 อันดับแรก คือ 1. มะเร็งตับและท่อน้ำดี, 2. มะเร็งปอด 3. มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง 4. มะเร็งต่อมลูกหมาก และ 5. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มาดูที่มะเร็งในผู้หญิงกันบ้าง จากสถิติพบป่วยเป็นมะเร็ง 151 คนต่อประชากร 1 แสนคน อยู่ในอันดับ 18 ของเอเชีย โดยโรคมะเร็งที่พบบ่อยในเพศหญิง อันดับ 1. มะเร็งเต้านม 2. มะเร็งตับและท่อน้ำดี 3. มะเร็งปากมดลูก 4. มะเร็งลำไส้ และ 5. มะเร็งปอด
นอกจากโรคมะเร็งแล้ว ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในตอนนี้เห็นจะเป็น “โรคไข้เลือดออก” ที่เริ่มเข้าสู่ภาวะเสี่ยงมาสักระยะหนึ่งแล้ว และจะหนักหน่วงยิ่งขึ้นในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ด้วยสถิติที่สูงขึ้นทุกปี
ไข้เลือดออก โรคใหญ่ที่มากับสัตว์ตัวเล็ก
หลายฝ่ายเริ่มกังวลต่อการแพร่ระบาดชนิดป่าล้อมเมือง จากต่างจังหวัดขยายตัวเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จนกลายเป็นการแพร่ระบาดที่เจ็บซ้ำ ๆ ในทุกปี บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง
แม้ไข้เลือดออกจะไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ในไทย แต่ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทยมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ซึ่งเป็นฐานการผลิตของลูกน้ำยุงลายชั้นดีกว่าหลายร้อยล้านตัว แม้วงจรชีวิตจะมีเพียง 14 วัน แต่ก็มากพอที่จะทำให้เราป่วยและอาจเสียชีวิตได้
รู้จักยุงลายจึงจะเข้าใจไข้เลือดออก
ยุงลายแบ่งวงจรชีวิตออกเป็น 4 ระยะ คือ ไข่, ตัวอ่อน, ตัวโม่ง และระยะตัวเต็มวัย มีวงจรชีวิตประมาณ 9 - 14 วัน ตัวเมียอายุประมาณ 1 - 3 เดือน แต่ตัวผู้มีอายุประมาณ 6 - 7 วัน โดยยุงแต่ละตัววางไข่ได้ 3 - 4 ครั้ง ครั้งละ 50 - 300 ฟอง
เมื่อยุงตัวเมียอายุได้ 2 - 3 วัน จะเริ่มออกหากินเลือดคนหรือสัตว์ เพื่อนำเอาโปรตีนและแร่ธาตุไปใช้สำหรับการเจริญเติบโตของรังไข่ ส่วนยุงตัวผู้จะดูดน้ำหวานเพื่อดำรงชีวิต
ไข้เลือดออกเกิดจาก “เชื้อไวรัสเดงกี่” มียุงลายบ้านเป็นพาหะ โดยยุงตัวเมียที่ออกหากินในเวลากลางวันจะกัดดูดเลือดผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตัวนื้ จากนั้นเชื้อจะเข้าไปอยู่ในเซลล์ที่ผนังกระเพาะ เมื่อไวรัสขยายตัวมากขึ้นก็จะออกจากเซลล์ที่ผนังกระเพาะมาสู่ต่อมน้ำลาย และจะแพร่เชื้อสู่คนที่ถูกกัดในครั้งต่อไป
นี่อาจเป็นขีปนาวุธที่ขับเคลื่อนด้วยสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ซึ่งพร้อมจะกัดและแพร่เชื้อสู่คน จนเกิดอาการป่วยและอาจรุนแรงจนถึงเสียชีวิตในที่สุด
ครึ่งปีแรก ป่วย 16,924 ราย เสียชีวิต 11 ศพ
ไข้เลือดออกระบาดหนักขึ้นในทุกปี โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข นับเฉพาะ 5 ปีหลังสุด ตั้งแต่ 2558 - 2562 มียอดผู้ป่วยสะสมในประเทศรวมกันมากถึงกว่า 300,000 คน และเสียชีวิตรวมเกือบ 300 ศพ ที่สำคัญ 6 เดือนแรกของปี 2563 พบผู้ป่วยไปแล้ว 16,924 ราย เสียชีวิตรวม 11 ศพ
ยุงดุกว่าเสือ เด็กเล็กมีความเสี่ยงสูง
ยุงลายเป็นพาหะของไข้เลือดออก ซึ่งตอนนี้ได้แพร่ระบาดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พบผู้ป่วยเป็นจำนวนมากในจังหวัดระยอง, ชัยภูมิ, อ่างทอง, ขอนแก่น และนครราชสีมา เด็กเล็กเป็นกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากสุด อยู่ในช่วงวัย 10 - 14 ปี เรียกได้ว่าเลือดของเด็กเล็กเป็นขนมหวานของยุงร้ายเลยทีเดียว
มะเร็งและไข้เลือดออก ค่ารักษาหลักหมื่น สูงสุดเกิน 10 ล้านบาท
เปิดค่ารักษาโรคมะเร็งและไข้เลือดออกมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยมะเร็งค่ารักษาเบื้องต้นตั้งแต่ทานยา ฉายแสง หรือ คีโม ค่ารักษาเริ่มต้นที่แสนบาท ยิ่งรักษาต่อเนื่องก็ยิ่งแพง ส่วนไข้เลือดออกอยู่ที่หลักหมื่นต้น ๆ แต่ถ้ามีอาการรุนแรงราคาก็จะปรับตัวขึ้นอีก หลายปีก่อน... เคยมีกรณีเข้ารับการรักษาโรคไข้เลือดออกในระยะที่ค่อนข้างหนัก จนค่ารักษาทะลุไปกว่า 18 ล้านบาทก็มีให้เห็นมาแล้ว โดยเฉพาะเด็กเล็กยิ่งแพงขึ้นอีกหลายเท่าตัว
เริ่มป้องกัน ดีกว่าสายเกินแก้
วิธีดีที่สุดในการเอาชนะทั้งมะเร็งและไข้เลือดออก คือ การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก สำหรับการป้องกันมะเร็ง ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน โดยปรับลักษณะการใช้ชีวิตที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงลง รักษาสุขภาพและออกกำลังกายเป็นประจำ และควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี
สำหรับไข้เลือดออกรณรงค์ด้วยวิธีการแก้ไขที่ถูกทางมาหลายสิบปี แต่ก็ยังพบผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้มีการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายบริเวณบ้านและในชุมชน ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ เก็บบ้านให้สะอาด, เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน และเก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่อบริโภคต้องปิดฝาให้มิดชิด ทั้งล้างและคว่ำให้เรียบร้อย สามารถป้องกันได้ถึง 3 โรค คือ ไข้เลือดออก, ติดเชื้อไวรัสซิกา และไข้ปวดข้อยุงลาย
ทว่าปัจจัยที่มีผลมากสุดกับอยู่ที่ความตระหนักและตื่นตัวของประชาชน ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดการแพร่ระบาดของสงครามโรคในครั้งนี้ได้
ประกันมะเร็งและประกันยุง จัดอยู่ในกลุ่ม “ไมโครอินชัวรันส์” ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้การสนับสนุนเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เช่น ประชาชนทั่วไป พ่อค้า แม่ค้าแผงลอย พนักงานบริษัท ฯลฯ ชูจุดเด่นในเรื่องราคาที่ค่อนข้างถูก เริ่มตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน แต่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมการรักษาโรคที่เฉพาะเจาะจงได้
โดยจุดที่น่าสนใจอยู่ที่การคุ้มครองด้วยวงเงินสดที่เราเรียกว่า “เจอ จ่าย จบ รับเงินก้อน” ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับยุคนี้ เพราะช่องทางการรักษามีอยู่หลายช่องทาง ประชาชนสามารถนำสินไหมเพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสมต่อตัวเองได้
รวม “ประกันมะเร็ง ประกันยุง เจอ จ่าย รับเงินก้อน”
เช็กลิสต์รวมประกัน เจอ จ่าย รับเงินก้อน เริ่มต้นด้วยประกันมะเร็งที่น่าสนใจมากที่สุดในเวลานี้ ต้องยกให้ “ThaiSri Cancer ประกันมะเร็งออนไลน์” จาก บมจ. ไทยศรีประกันภัย จุดเด่นอยู่ที่ความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย พร้อมดูแลมะเร็งทุกประเภทในทุกระยะ ตรวจพบรับเงินก้อนค่ารักษา 300,000 บาท พร้อมคุ้มครองมะเร็งผิวหนังเพิ่มให้อีก 60,000 บาท คุ้มครองถึงอายุ 59 ปี และต่ออายุได้ถึง 65 ปี ด้วยราคาเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1,085 บาทต่อปี รายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อออนไลน์ได้ทันที คลิก https://bit.ly/2NjVWtn
สำหรับในส่วนประกันยุงที่ได้รับความนิยมมาก คัดแล้วที่มีความน่าสนใจ และตอบโจทย์ในเรื่องความคุ้มครองได้ลงตัวอย่างครอบคลุม มีทั้งหมด 2 แผนประกัน คือ
ประกันโรคร้ายจากยุง ของ บมจ.กรุงเทพประกันภัย คุ้มครอง 5 โรคร้ายจากยุง ได้แก่ 1. โรคไข้เลือดออก 2. โรคไข้จับสั่น 3. โรคติดเชื้อไวรัสชิกา 4. โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา และ 5. โรคไข้สมองอักเสบ ตรวจเจอ รับเงินก้อนสูงสุด 30,000 บาท และมีค่าชดเชยการนอนรักษาในโรงพยาบาลสูงสุดวันละ 1,500 บาท จ่ายค่าเบี้ยเริ่มต้นเพียง 150 บาทต่อปี รายละเอียดเพิ่มเติม และซื้อออนไลน์ คลิก https://bit.ly/3elD1u8
แผนต่อไปก็มาจากกรุงเทพประกันภัยอีกเช่นกัน สำหรับ “ประกัน 3 โรคกวนใจ” คุ้มครองโรคส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเด็ก เหมาะกับฤดูฝนอย่างในช่วงนี้ เพราะให้ความคุ้มครอง 1. โรคไข้หวัดใหญ่ 2. โรคมือเท้าเปื่อย และสุดท้าย 5 โรคร้ายจากยุง คุ้มครองแบบเหมาจ่าย ป่วยรับเงินก้อนเป็นค่ารักษาสูงสุด 20,000 บาท ค่าชดเชยการนอนรักษาในโรงพยาบาลสูงสุดอีกวันละ 1,500 บาท ด้วยเบี้ยเริ่มต้นเพียง 190 บาท/ปี รายละเอียดเพิ่มเติม และซื้อออนไลน์ คลิก https://bit.ly/3hKT72D
ทั้งหมดนี้เป็นความคุ้มครองจากประกันในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลรายละเอียดได้จาก 724 มาร์เก็ต รวมสินค้าคุณภาพ และประกันทุกประเภท ซื้อครบ จบในที่เดียว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://member.724.co.th/register_member/u/AM00062781 หรือ ช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ค เช็คประกันรถ ซื้อออนไลน์ง่าย ๆ สะดวกปลอดภัย และสามารถทำรายการด้วยตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น